วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

เพลงประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์



เพลงประจำโรงเรียน

     บทร้องอโหกุมาร เป็นเพลงประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์ เพลงนี้เป็นพระนิพนธ์ของพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.) พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในกวีชั้นยอดแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพระยาจรัลชวนะเพท อาจารย์ใหญ่โรงเรียนเทพศิรินทร์ในสมัยนั้น เห็นว่าทางโรงเรียนมีงานรื่นเริงประจำปีเสมอ จึงควรจะมีบทเพลงประจำสักหนึ่งบท จึงทูลขอให้ทรงนิพนธ์ พระองค์ได้ทรงนิพนธ์แล้วเสร็จและประทานแก่โรงเรียนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2474 จากนั้น วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 ทางโรงเรียนได้มีหนังสือแจ้งขออนุญาตไปยังกระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อขอใช้บทพระนิพนธ์นี้เป็นบทร้องประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์ ต่อจากนั้นพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ทรงโปรดให้ หลวงประสานบรรณวิทย์เป็นผู้ฝึกร้องตามทำนองฝรั่ง จนร้องถูกต้องดีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2475 ดังนั้นจึงนับเอาวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2475 เป็นวันที่บทร้องอโหกุมารถูกร้องเป็นวันแรก[ต้องการอ้างอิง]

บทร้องอโหกุมารทรงนิพนธ์ด้วยสยามวิเชียรฉันท์ 8 ซึ่งมีความไพเราะมีจังหวะเสียงขึ้นลงสลับกันไปมา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่แปลก โดยบทสยามวิเชียรฉันท์ 8 นี้ พูดได้ว่ามีเพลงอโหกุมารเพียงเพลงเดียว[ต้องการอ้างอิง] และเป็นเรื่องแปลกในการใช้ฉันท์มาใส่ทำนองร้องเป็นเพลงได้[ต้องการอ้างอิง] ชาวเทพศิรินทร์ทุกคนถือว่าบทร้องอโหกุมารมีความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อใดที่ได้ยินจะยืนตรงแสดงความเคารพและร้องด้วยความภูมิใจในเกียรติยศและศักดิ์ศรี และภูมิใจเสมอว่าเพลงนี้ได้ชื่อว่าเป็นเพลงประจำสถาบันที่มีความไพเราะที่สุด[ต้องการอ้างอิง]


พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ผู้แต่งบทประพันธ์ "อโหกุมาร" ให้กับโรงเรียนเทพศิรินทร์

บทร้องประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์


     อโหกุมารสถานสิขา         ณ เทพศิรินทร์ระบิลระบือ

สำเนียงจำโนษอุโฆษก็คือ         ดรุณสยามมิคร้ามวิชาฯ

     สมัญญะเลิศจะเกิดไฉน       จะเกิด ณ เมื่ออะเคื้อสิขา

จะเกิด ณ คราวอะคร้าววิชา        วิปักษะขามสยามวิชัยฯ

     วิถีสำรวย บ่ งวย บ่ งง       วิถีสำเริง บ่ เหลิงหทัย

วิถีสำราญ บ่ ซานจะไป            วิถีอบาย บ่ หมายจำนงฯ

     วิชาวิบุลย์ดรุณจะเรียน        ประเกียรติ์จะเกิดประเสริฐประสงค์

ประเทศจะงามสยามจะยง          จะสุดวิเศษก็เหตุเพราะเพียรฯ

     อโหดรุณจะครุ่นสิขา         อโหกุมารจะอ่านจะเขียน

วิชาจะเทียบจะเปรียบวิเชียร         วิเชียรก็ชู บ่สู้วิชาฯ

     วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม   หทัยะทัยจะไตรจะตรา            

หทัยะทัยจะใฝ่วิชา                วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม

     ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์  สถานสิขาสง่าพระนาม  

สำนักกิฬาสง่าสนาม                ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์

ชโย ชโย ชโย


คำแปลบทร้องอโหกุมาร

¤ อโหกุมารสถานสิขา ณ เทพศิรินทร์ระบิลระบือ

สำเนียงจำโนษอุโฆษก็คือ ดรุณสยามมิคร้ามวิชาฯ

- เด็กชายทั้งหลายซึ่งอยู่ในสถานศึกษาแห่งนี้ ที่นี่ ที่เทพศิรินทร์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ เสียงที่กล่าวขานอย่างกึกก้องนั้น คือเด็กชายชาวสยามไม่เคยย่อท้อต่อการศึกษาเล่าเรียน


¤สมัญญะเลิศจะเกิดไฉน จะเกิด ณ เมื่ออะเคื้อสิขา

จะเกิด ณ คราวอะคร้าววิชา วิปักษะขามสยามวิชัยฯ

- เหตุใดเล่าสมญานามที่ดีงามเช่นนี้จึงเกิดได้ เกิดขึ้นได้ก็เพราะความเจริญงอกงามทางการศึกษา เกิดขึ้นก็เพราะได้การศึกษาที่น่าภาคภูมิใจ เด็กชายชาวสยามจะสามารถเอาชนะคู่แข่งทางการศึกษาได้เสมอจนเป็นที่เกรงขาม


¤ วิถีสำรวย บ่ งวย บ่ งง วิถีสำเริง บ่ เหลิงหทัย

วิถีสำราญ บ่ ซานจะไป วิถีอบาย บ่ หมายจำนงฯ

- มิได้ลุ่มหลงอยู่กับความโอ่อ่า มิได้มัวเพลินอยู่กับการรื่นเริง มิได้ปรารถนาจะไปสู่หนทางแห่งความสุขสำราญ ไม่เคยหลงผิดที่จะสู่หนทางแห่งความเสื่อม


¤ วิชาวิบุลย์ดรุณจะเรียน ประเกียรติ์จะเกิดประเสริฐประสงค์

ประเทศจะงามสยามจะยง จะสุดวิเศษก็เหตุเพราะเพียรฯ

- วิชาความรู้เท่านั้นที่เราใส่ใจ เราจะสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้เป็นที่ปรากฏ ประเทศชาติจะดีงามมั่นคง และเจริญรุ่งเรืองได้ก็ด้วยพวกเราพากเพียรในการศึกษา


¤ อโหดรุณจะครุ่นสิขา อโหกุมารจะอ่านจะเขียน

วิชาจะเทียบจะเปรียบวิเชียร วิเชียรก็ชู บ่สู้วิชาฯ

- เด็กชายชาวสยามจะใฝ่ใจในการศึกษา เราจะเพียรเรียนเขียนอ่าน หากจะนำวิชาความรู้มาเทียบกับเพชร เพชรก็มิอาจเทียบได้กับคุณค่าของความรู้


¤ วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม หทัยะทัยจะไตรจะตรา

หทัยะทัยจะใฝ่วิชา วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม

- เมื่อรู้คุณค่าของความรู้เช่นนี้แล้ว และเมื่อดวงใจทุกดวงจดจ่อในการศึกษาเช่นนี้แล้ว มีหรือที่วิชาความรู้จะสูญสิ้นไปจากแดนสยาม

¤ ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์ สถานสิขาสง่าพระนาม

สำนักกิฬาสง่าสนาม ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์

ชโย ชโย ชโย

- ที่เทพศิรินทร์ ที่เทพศิรินทร์แห่งนี้ สถานศึกษาที่เชิดชูพระนามว่าเทพศิรินทร์ เป็นที่ยอมรับยิ่งขึ้น สถานศึกษาที่สร้างนักกีฬาที่องอาจในสนามแข่งขัน ที่นี่ที่เทพศิรินทร์ที่เทพศิรินทร์แห่งนี้ ขอจงรุ่งเรือง...สืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น